วันนี้เรามาเรียนรู้เรื่อง "โรคไข้หวัดใหญ่" กันดีกว่าค่ะ ... โดยข้อมูลที่นำมา
เขียนในวันนี้ เป็นข้อมูลที่ได้มาทางโรงพยาบาล ต้องขอขอบคุณ "โรงพยาบาลกรุงเทพ" มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ สำหรับข้อมูลดีๆเหล่านี้
โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคที่ติดต่อทางระบบทางเดินหายใจ มีการระบาดอย่างกว้างขวางตามสถานที่ต่างๆที่มีการใช้อากาศร่วมกันเยอะๆ เช่น ตามสถานที่ที่มีคนเยอะๆและแออัด โดยเจ้า "ไข้หวัดใหญ่" เกิดจากเชื้อ ไวรัส (Influenza Virus) ซึ่งทำให้เกิดโรคกับระบบทางเดินหายใจที่รุนแรงกว่าไวรัสตัวอื่นๆ เพราะอาการจะรุนแรงกว่าถึงขั้นเสียชีวิตได้ในผู้ป่วยบางราย เช่น คนสูงอายุ และ ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท (โรคปอด , โรคหัวใจ , โรคเบาหวาน , หรือผู้ที่มีความภูมิต้านทานต่ำ)
อาการและช่วงเวลาในการเกิดโรค
คนที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ มีไข้ , ปวดศรีษะ , ปวดเมื่อยร่างกาย , เหนื่อยง่าย , ไอแห้งๆ , เจ็บคอ , มีน้ำมูก บางรายอาจจะเกิดอาการ คลื่นไส้ , อาเจียน , และท้องเสียร่วมด้วย โดยช่วงเวลาที่เกิดโรค อาจเป็นได้ทั้งปี แต่จะระบาดมากในช่วงฤดูฝน
ภาวะแทรกซ้อน
สำหรับผู้สุงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว อาจมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ปอดอับเสบจากเชื้อแบคทีเรีย , ภาวะขาดน้ำ เป็นต้น ซึ่งทำให้โรคประจำตัวที่เป็นอยู่นั้นมีอาการแย่ลงได้ เช่น ภาวะหัวใจวาย , หอบหืด , เบาหวาน ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
ระยะเวลาและการติดต่อ
ผู้ป่วยจะเกิดอาการ ภายหลัง จากที่สัมผัสเชื้อโรคประมาณ 1 - 4 วัน และสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่น "ก่อน" เกิดอาการของโรค 1 วัน และ "หลัง" มีอาการแล้ว 5 วัน โดยติดต่อผ่านทางเสมหะของผู้ป่วย โดยการ "ไอหรือจาม" แล้วเข้าสู่จมูกและปากของผู้ใกล้ชิด (ในระยะ 3 ฟุต) หรืออาจเกิดจากการสัมผัสกับเสมหะของผู้ป่วยที่ติดมากับสิ่งของเครื่องใช้
ทางแก้ไขป้องกัน
1. ฉีดวัคซีน (เป็นวิธีที่ดีที่สุด)
2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วยและเสมหะของผู้ป่วย
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับ จมูก/ตา/ปาก ของตัวเองหลังจากสัมผัสกับผู้ป่วย (ถ้ามีการสัมผัส ให้รีบล้างมือให้สะอาด)
4. ควรอยู่ห่างจากคนอื่น ปิดปาก/จมูก เวลา ไอ/จาม
การฉีดวัคซีนป้องกัน
ควรฉีดระหว่างเดือน มกราคม - มิถุนายน ของทุกปี เพราะวัคซีนสามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ประมาณ 1 ปี (เท่านั้น) และการระบาดของโรคนี้จะเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ได้บ่อย ซึ่งวัคซีนที่ผลิตขึ้นในแต่ละปีจะเป็น "วัคซีนเฉพาะสายพันธุ์" ที่กำลังระบาดอยู่ในปีนั้นๆ (ร่างกายของคนเราจะสร้างภูมิคุ้มกันโรค "ภายหลัง" จากที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว 2 สัปดาห์) โดยประสิทธิภาพของวัคซีนจะสามารถป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ประมาณ 70 - 90% แต่สำหรับผู้สูงอายุนั้น การตอบสนองต่อวัคซีนจะน้อยกว่า % ที่ได้บอกไปข้างต้น เนื่องจาก "ความต้านทานของร่างกายน้อยกว่าปกติ"
ใครบ้างที่ควรได้รับการฉีดวัคซีน (เป็นพิเศษ)
1. ผู้สูงอายุ
2. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดเรื้อรัง , โรคหอบหืด , โรคเบาหวาน , โรคไต , โรคหัวใจ , โรคตับ , โรคเอดส์ เป็นต้น และรวมถึงสมาชิกในครอบครัวของผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง
3. หญิงที่มีอายุครรภ์ 3 เดือนขึ้นไป
การปฏิบัติตัวก่อน/หลังการรักษา (สำหรับผู้ป่วย)
1. ดื่มน้ำเยอะๆ ถ้ามีอาการอ่อนเพลีย ควรดื่มน้ำเกลือแร่และน้ำผลไม้ร่วมด้วย
2. ทานยาลดไข้
3. ล้างมือบ่อยๆเมื่อออกนอกบ้าน
4. เวลาไอ/จาม ให้ใช้ผ้าปิดปาก
5. สวมผ้าปิด จมูก/ปาก ทุกครั้งเวลาออกไปข้างนอก
การปฏิบัติตัวก่อน/หลังการรักษา (สำหรับคนใกล้ชิด)
1. เด็กและผู้สูงอายุ "ไม่ควร" เข้าใกล้ผู้ป่วย
2. สวมผ้าปิด จมูก/ปาก เมื่อใกล้ชิดผู้ป่วย
3. ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง หลังสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย
หน้าที่เข้าชม | 42,472 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 32,178 ครั้ง |
เปิดร้าน | 22 เม.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 4 ก.ย. 2568 |